The English Patient ผู้ป่วยชาวอังกฤษ ดิอิงลิชเพเชี่ยน

Please scroll down to read in English
หนังเรื่องต่อไปที่จะเขียนถีงก็เป็นหนังที่มีเนิ้อหาอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอีกเรื่องนะคะ The English patient เป็นหนังเมื่อตั้งแต่ปี 1996 มาดูอีกครั้งเกือบสามสิบปีให้หลังก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นหนังที่สวยงามซาบซึ้งตรึงใจคลาสสิกจริงๆ อย่างไรก็ตามขอให้เตรียมผ้าเช็ดหน้า ทิชชู่อะไรไว้ล่วงหน้า เพราะหนังเรื่องนี้เศร้าอย่างอมตะจริงๆ 
ก่อนอื่นอยากจะบอกว่า ถ้าเราเป็นคนที่ชอบดูหนัง แม้หนังจะเก่าแล้วก็อย่าคิดว่ามันจะไม่มีคุณภาพนะคะ หนังเก่าๆ บางเรื่องดูแล้วไม่รู้สึกว่ามันล้าสมัยเลย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำ การแสดง การเขียนบท การจัดฉากและแม้แต่เสื้อผ้า
ผู้เขียนได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนที่ออกฉายทางโรงภาพยนต์ครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กแล้วก็ยังไม่ได้รู้สึกซาบซั้งกับเรื่องราวเท่าไหร่ มีโอกาสได้มาดูอีกครั้งก็คือเมื่อไม่นานมานี้เพราะไปได้แผ่นดีวีดีจากร้านขายของการกุศลมา คราวนี้ก็โตแล้ว คือจะบอกว่าแก่แล้วก็เกรงใจตัวเอง😊 ดูแล้วก็โอ้ยตาย ประทับใจซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก คอหอยตีบตัน
เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องกันเลยว่าหนังเรื่องนี้แบ่งเป็นสองเรื่องซึ่งดำเนินควบคู่กันไป เรื่องแรกเป็นเรื่องของท่านเคาน์อัลมาชี่ (มีตัวตนอยู่จริง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในหนังเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น) นำแสดงโดย ราล์ฟ ฟายน์ส กับแคทเธอรีน คลิฟตั้น นำแสดงโดย ครีสตีน สก๊อตต์ ธอมัส ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตที่เคาน์
อัลมาชี่รำลึกถึงขณะรักษาตัวกับพยาบาลสาวชาวแคเนเดี้ยนชื่อ ฮาน่า(จูเลียต บินอช) เรื่องที่สองก็คือเรื่องระหว่างฮาน่ากับคิป (นาวีน แอนดรูส์) ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
มันเป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ อิตาลีประกาศยอมแพ้ และทหารนาซีล่าถอยออกจากอิตาลี ฮาน่าเป็นนางพยาบาลสาวชาวแคเนเดี้ยนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคร้าย รักใครคนนั้นก็มักจะมีอันเป็นไป นั่นก็คือคนรักและเพื่อนสนิท ฮาน่าดูแลผู้ป่วยคนหนึ่งซึ่งถูกไฟคลอกจนหน้าตาเละ และนอนติดเตียงลุกไปไหนไม่ได้ ผู้ป่วยจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง ทุกคนเรียนเขาว่าเป็นผู้ป่วยชาวอังกฤษเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงของ

ชาวอังกฤษ และจากเอกสารเขียนบอกว่าเครื่องบินที่เขาขับและถูกยิงตกเป็นของประเทศอังกฤษ ถูกยิงตกทางตอนเหนือของอียิปต์ ชาวเบดูอีนช่วยชีวิตเขาไว้ พารอนแรมไปจนพบหน่วยกาชาด ฮาน่ามีความรู้สึกผูกพันกับผู้ป่วยชาวอังกฤษคนนี้ ทั้งเขาและเธอโดยการไปกับขบวนรถบรรทุกของหน่วยกาชาดจนกระทั้งเพื่อนสนิทของเธอถูกกับระเบิดเสียชีวิตขณะที่หน่วยกาชาดมาถึงแคว้นทัสคานี่ของอิตาลี ฮาน่ามีความตั้งใจแรงกล้าที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยชาวอังกฤษคนนี้ นัยว่าเธอต้องการจะทดแทนที่เธอได้สูญเสียคนรักไปคนแล้วคนเล่า เธอบอกกับหัวหน้าพยาบาลว่าเธอจะแยกนำผู้ป่วยชาวอังกฤษไปพักฟื้นในปราสาท



ร้างที่เธอค้นพบตามลำพัง ที่นั้นเองที่เรื่องราวต่างๆ เริ่มมาปะติดปะต่อกัน ผู้ป่วยชาวอังกฤษซึ่งก็คือท่านเคาท์อัลมาชี่ชาวฮังกาเรียน แต่ได้รับการศึกษาจากประเทศอังกฤษและเป็นนักทำแผนที่ก็รำลึกถึงความหลังเมื่อยามที่เขายังมีใบหน้าหล่อเหลาทำแผนที่ทะเลทรายทางตอนเหนือของอียิปต์ ซึ่งที่นั้นเองเขาได้พบกับเคทเธอรีน คลิฟตั้นเป็นครั้งแรก แคทเธอรีนเพิ่งแต่งงานกับเพื่อนสนิทของเธอ เจฟฟรีย์ คลิฟตั้นผู้ซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่อายุสามขวบ มีความรู้สึกว่าทั้งอัลมาชี่ และแคทเธอรียนสนใจซึ่งกันและกันตั้งแต่แรกพบ เข้าใจว่าความรักที่เธอมีต่อเจฟฟรีย์นั้นเหมือนความรักระหว่างเพื่อนหรือพี่น้องมากกว่าที่จะ

เป็นความรักแบบหนุ่มสาว พอเธอมาเจอชายหนุ่มรูปหล่อ โสด น่าสนใจอย่างอัลมาชี่ก็เลยอดใจไว้ไม่ได้ ส่วนอัลมาชี่เองก็คงมาอยู่ในทะเลทรายเสียนาน ผู้หญงผู้หญิงก็คงจะไม่ค่อยได้พบเจอ เพราะสมัยก่อนก็คงต้องเป็นผู้หญิงที่รักการผจญภัย สมบุกสมบันได้จริงๆ ถึงจะมารอนแรมอยู่ในทะเลทรายต่างบ้านต่างเมือง แถมแคทเธอรีนก็สวยมีเสน่ห์ มีเจ้าของแล้วก็ยิ่งทำให้เป็นที่ปราถนาของหนุ่มโสดเป็นยิ่งนัก
จริงๆ แล้วผู้เขียนพบว่าเรื่องรักระหว่างอัลมาชี่และแคทเธอรีนนั้นโรแมนติกสู้เรื่องระหว่างฮาน่ากับคิปไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อรวมกันแล้วมันก็ให้หนังเรื่องนี้
ทั้งโรแมนติก ทั้งเศร้า และน่าสนใจไปด้วยกัน
ฮาน่ารู้จักกับคิปเมื่อเขาได้ยินเธอเล่นเปียโนจากเปียโนที่ล้มเอียงกะเท่เร่ในปราสาทที่เธอพักอยู่กับอัลมาชี่ เขาเป็นนักกู้ระเบิดหนุ่มหล่อมาก..ก..ก ชาวซิกข์จากอินเดียที่ร่วมทำงานกับทางการอังกฤษ เห็นได้ทันทีว่าเธอปิ๊งเขาทันทีที่ได้เห็น และเขาก็ดูเหมือนจะรู้และสนใจเธอกลับ ไม่มีอะไรพิเศษสุดไปกว่าการที่เรารักใครแล้วเขารักเราตอบ 😍 คิปตั้งแคมป์อยู่ในเขตสวนของปราสาท และฮาน่าก็ลอบมองเขาจากหน้าต่าง นอกจากคิปแล้วก็ยังมีชาวแคนาเดี้ยนอีกคนมาขออาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว นั่นก็คือคาราแวคโจ้เขามีท่าทางไม่ค่อยน่าไว้วางใจ และมือทั้งสองข้างใช้การได้ไม่ดี แต่ฮาน่าก็ยอมให้เขาอยู่ด้วย เพราะ

เธอพบว่าเขาอยู่ในละแวกบ้านเดียวกับเธอที่แคนาดา 
และก็อย่างที่เราคงจะเดาออกว่าในที่สุดหลังจากอัลมาชี่และแคทเธอรีนได้ร่วมใช้เวลาด้วยกันในทะเลทรายหนึ่งคืนระหว่างเกิดพายุทะเลทราย ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกันอย่างช่วยไม่ได้ จะว่าบรรยากาศมันพาไปหรือเขาเกิดมาคู่กันก็ไม่เหมือนกัน แต่มันก็เป็นความรักแบบที่ต้องปกปิด สับสน ซับซ้อน ไม่เหมือนความรักระหว่างคิปกับฮาน่าซึ่งบริสุทธิ์ น่ารัก โรแมนติกจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น เขาจุดเทียนจากห้องนอนของอัลมาชีเป็นจุดๆ ให้เธอเดินตามแสงไฟไปจนถึงโรงนาที่เขาใช้เป็นที่นอน
แล้วก็ยังตอนที่เขาให้เธอซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปในเมือง เข้าไปยังโบสถ์เก่า ทำลูกลอกดึงให้เธอลอยขึ้นไปดูภาพเขียนบนฝาผนังใกล้ๆ มันโรแมนติกจนไม่รู้จะบรรยายยังไงถูก 
ส่วนความรักระหว่างอัลมาชี่กับแคทเธอรีนมันดูเหมือนจะเป็นพิษยังไงชอบกล อัลมาชี่นั้นขนาดเป็นชู้กับภรรยาชาวบ้านก็ยังมีหน้าไปหึงหวงเขาอีก และก็แน่ละว่าในที่สุดเจฟฟรีย์ก็จับได้ว่าภรรยามีชู้ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ประกาศสงครามพอดี และโครงการทำแผนที่ก็จะต้องยุติลง ทุกคนต้องแยกย้ายกันไปคนละทางสองทาง หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะโรแมนติก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ไม่มีพรมแดน 

ตอนที่แมดด๊อกซ์เพื่อนนร่วมงานชาวอังกฤษของอัลมาชี่ พูดก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปว่า "There were rivers of desert tribes, the most beautiful humans I've ever met in my life. We were German, English, Hungarian, African - all of us insignificant to them. Gradually we become nationless. I came to hate nations." มันก็ทำให้รู้สึกว่าสงครามนี่มันช่างโหดร้าย แบ่งแยก ไร้สาระจริงๆ แมดด๊อกซ์ทิ่งเครื่องบินของเขาไว้ให้อัลมาชี่ ก่อนที่ตัวเองจะเดินทางกลับอังกฤษ อัลมาชี่เดินทางไปที่ถ้ำภาพเขียนคนว่ายน้ำที่เขาค้นพบ เจฟฟรีย์ว่าอุบายว่าจะไปรับอัลมาชี่กลับมา แต่แท้ที่จริงแล้วแผนการณ์ของเขาก็คือจะฆ่าอัลมาชี่ แคทเธอรีน และตัวเองเอง อัลมาชี่ไม่รู้

หรอกว่าเจฟฟรีย์ขับเครื่องบินมารับเขา เขาเห็นเครื่องบินดิ่งตรงเข้าไปชนเขาก็เลยพุ่งตัวหลบทัน เครื่องบินชนเข้ากับพื้นทะเลทราย เจฟฟรีย์คนขับตายคาที่ และแคทเธอรีนนั่งมาด้วยบาดเจ็บ อัลมาชี่อุ้มเธอเป็นนอนพักในถ้ำคนว่ายน้ำ ทิ้งเสบียงและก่อไฟไว้ให้ แล้วเขาก็บอกว่าเขาจะรีบออกเดินทางไปขอความช่วยเหลือ เพราะเข้าใจว่าแคทเธอรีนกระดูกหัก เดินเหิรไม่ได้ ถึงตอนนี้มันเป็นความรู้สึกที่น่าเศร้า สลด หดหู่จริงๆ เมื่อคิดถึงว่าเราต้องทิ้งคนที่เรารักที่บาดเจ็บไว้ในถ้ำมืดๆ เหมือนสัตว์ป่านอนรอความตาย ก็กลางทะเลทรายนี่นะ กว่าจะเดินด้วยเท้า
ไปขอความช่วยเหลือนี่มันจะใช้เวลานานแค่ไหนกัน
มันคงไม่ใช่วันสองวันหรอก แล้วทำไมดูใจกันจนตายก็ไม่รู้ เป็นไปได้ว่า เขามีความหวังว่าแคทเธอรีนจะรอด เขาจะเสี่ยง แต่เขากลับมาไม่ทันอย่างที่เราๆท่านๆ ก็คงคาดการ์ณได้ มันจะไปทันได้ยังไงละนึ้อ
เขากลับมาอีกที เธอก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว โอ้ยตายมันเศร้าจริงๆ ไม่รู้จะบรรยายยังไง เขาก็เลยเอาศพของเธอใส่เครื่องบินกลับไป แต่เครื่องบินถูกยิงตก ไฟท่วม เขาถูกไฟคลอก แต่มีพวกเบดูอีนมาช่วยไว้ได้ อย่างตอนเริ่มเรื่อง ส่วนแคทเธอรีนก็คงถูกณาปนกิจไปกับซากเครื่องบินนั้นเลย ยิ่งคิดยิ่งหดหู่ กลายเป็นว่าคาวาแวคโจ้คิดว่าอัลมาชี่เป็นคนฆ่าแคทเธอรีน
และเจฟฟรีย์ เพราะแท้ที่จริงคาราแวคโจ้นั้นเคยเป็นสายลับของแคนาดาและถูกทหารนาซีจับไปทรมานและตัดหัวนิ้วโป้งทั้งสองข้าง (น่ากลัวมากเลย คิดว่าเป็นฉากที่น่ากลัวฉากเดียวในหนัง) เขาก็ตามล้างแค้นฆ่าทหารนาซีที่สั่งตัดนิ้วเขา และคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เขาตามหาอัลมาชี่เพื่อจะล้างแค้น เพราะคิดว่าอัลมาชี่ฆ่าสองสามีภรรยาและมอบแผนที่ให้พวกเยอรมันทำให้แมดด๊อกซ์ฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าอัลมาชี่หักหลังเขา แต่เมื่อรู้ความจริงคาราแวคโจ้ก็เห็นใจอัลมาชี่
เรื่องราวของตัวละครแต่ละคนนั้นเกาะเกี่ยวเรียงร้อยเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี ทั้งอัลมาชี่ คาราวาจิโอ้ ฮาน่า 
และคิปซึ่งเป็นตัวละครที่พักอยู่ด้วยกันในปราสาทหลังนั้น 
ส่วนคิปนั้นหลังจากที่ลูกน้องซึ่งเขาคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย ถูกกับระเบิดตาย และเขารู้ว่าผู้ชายคนนี้มีคู่หมั้นเป็นผู้หญิงอิตาเลี่ยนแล้วก็ไม่ได้บอกเขา คิปก็เกิดเปลี่ยนมุมมองความเป็นไปได้ระหว่างเขาและฮาน่า ถ้าเข้าใจไม่ผิด คิปซึ่งเป็นคนอินเดีย เป็นคนเอเชียนเพียงคนเดียวรู้สึกผิดหวังที่เพื่อนร่วมงานที่สนิทถึงขนาดทำงานร่วมเป็นร่วมตายกับเขาไม่ได้ถือว่าเขาเป็นเพื่อนสนิท คิปเข้าใจว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้เป็นคนผิวขาวเหมือนคนอื่นๆ และความแตกต่างนี้ก็คงจะเป็นอุปสรรคสำหรับเขาและฮาน่า เหมือนกับว่าเขาตัดสินใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ 😭
มาถึงตรงนี้เรามีความรู้สึกว่าคิปน่าจะเสี่ยงให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ฮาน่าก็ไม่เข้าใจว่าทำไม และก็ยังรักคิป มันก็น่าเศร้าจังเลยที่ความแตกต่างระหว่างสีผิวและวัฒนธรรมจะเป็นตัวที่ทำให้คนสองคนที่รักกันต้องแยกจากกัน ในหนังนั้นฮาน่าพูดว่าเธอจะกลับไปที่โบสถ์แห่งนั้นเสมอ และคิปบอกว่าเขาก็จะไปเหมือนกัน แต่ผู้เขียนไปทำการค้นคว้าเพิ่มเติมว่าในหนังสือ ซึ่งผู้เขียนยังไม่ได้อ่าน เขาบอกว่าฮาน่ากับคิปไม่ได้แต่งงานกัน คิปกลับไปอินเดียและแต่งงานกับผู้หญิงชาติเดียวกัน และฮาน่าก็กลับไปแคนาดา 😢😭หวังว่าคงจะไม่ทำให้คุณๆท่านๆรู้สึกผิดหวังนะคะ เอาเป็นว่าเรามาคิดซะแล้วกันว่าคิปกับฮาน่าสมหวังในความ
รัก ได้แต่งงานอยู่ด้วยกันจนถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชร มันจะได้ลดความเศร้าในหัวใจลงไปได้บ้าง 
หนังเรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นหนังที่เศร้าเคล้าน้ำตา แต่ว่าเป็นหนังดี อมตะจริงๆ นะคะ ถ้าดูแล้วอยากจะคุยหรือแสดงความคิดเห็นก็กรุณาได้เลยนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูก็ขอแนะนำจริงๆ ค่ะ

Ralph Finnes as Almasy



Juliette Binoche as Hana

Naveen Andrews as Kip

Kristin Scott Thomas as Katherine



Julian Wadham as Madox



     

Willem Defoe as Caravaggio



Colin Firth as Jeffrey

I really love this film. I watched it when it came out on cinemas but I didn't like it then. I had a chance to watch it again not long ago on DVD which I bought from the charity shop, this time I really, really love it. I think it's one of the most beautiful films ever made! It doesn't look out of date either, despite being made almost thirty years ago, unlike Out of Africa which I have a chance to watch not long ago and find it is so incredibly dating. 
I love everything about this film, as a romantic/drama, the story, the acting, screenplay, music, locations, costume etc. Although I'm not that into the love story between Count Almasy and Katherine Clifton as much as I love the story between Hana and Kip but I think it goes well together. I love it that everyone has their own story and it's woven together beautifully, become one whole profound and memorable story. 
I find the bit between Kip and Hana is soooo romantic, when he lights some candles from Almasy's bedroom to his place for her to follow and when he takes her on his bike to the church and gets her up by the pulley to have a close look at the frescoes is so romantic I wish I could come up with something like that myself. Hanna & Kip (The English Patient) - YouTube I'm afraid I've become a bit obsessed with Kip and Hana, I googled to find out if they would end up together and I was sad to know that they did not 😭 I will have to read the book but I think I will inevitably be very sad 😐
I love the actors and actresses - they act so well I feel like they are real people even though they are famous actors and have been in many well known films. Naveen Andrews is gorgeous 😍 Everything about this film is beautiful - what more can I say? Unfortunately, I won't be watching it over and over too often because I get melancholy afterwards. It normally takes me a few days to get over the feelings but I still love it - it's definitely one of my all time favourites  ...

Photographs are from the film, I do not own any of them












Comments

Popular posts from this blog

The silence of the lambs

Cousins 1989

Julie & Julia จูลี่และจูเลีย