The silence of the lambs
I actually really like the film too. I think it's a very good film in all aspects but if it's not
for Clarice Starling I wouldn't have watched it so many times. The last time I watched it on DVD I thought the beginning of the film was a little ageing but it doesn't make me think less of it and Clarice has never felt out of date to me. She stays as cool as she has always been no matter how long ago it has been since the film was made.
I love that she is naturally good looking, she knows it but doesn't care too much about it. She doesn't get flattered so easily but it doesn't mean she has no feelings. she blushed when Dr Pilcher asks her out, we can see that she likes his approach and she likes him. She is a woman who wants something more substantial, knowing she has much more than her good looks and she wants to be taken seriously. She works alongside men and she doesn't put herself beneath them. She is hardworking and she knows her capability.
I like that the film shows how strong in personality she is, especially when she is amongst ignorant men, she stays cool, no matter how uncomfortable she feels. (1) The Silence of the Lambs (1991) - Doctor Chilton's Introduction - YouTube
When she first meets Dr Chilton, he is hitting on her and makes her feel uncomfortable but she remains polite and official. He doesn't like the way she reacts, sees that she doesn't feel at all flattered so he turns to dislike her. Chilton is such a creep and slimey. I remember the scene when he carries on giving a dig about FBI has to eventually use female staff to turn Lecter on and Clarice said, "I graduated from UVA, Dr Chilton. It's not a charm school." you can feel that she has enough of him being misogynistic and at that point Chilton stops trying to be nice and being horrible to her ever since. But, YES! take that, Chilton and Good on you, Clarice.
Then she meets Lecter for the first time and it starts off well. It seems like he finds her intriguing, the way a predator studies and plays with its prey before attacking it. Once he finishes analysing her then it's time for him to show her how superior he is. he points out her weakness which of course, upsets her, poor Clarice. She shows her vulnerability to him in the film as a bargain for him to help her finding Buffalo Bill . He is the superior and she is the inferior. Quid pro quo, they exchange information and each time they meet, they get more and more bonded to each other. I have a nightmare about Lecter's cell actually and that hallway she has to walk to get to it too. It reminds me of the dungeon in the tower of London - it feels so claustrophobic and horrific 😬 (1) Anthony Hopkins: The Silence of the Lambs ("Rube") Monologue - YouTube
Buffalo Bill's house is as scary as Lecter's cell. The only cheerful thing in it is Precious the dog! Buffalo Bill himself is such a weirdo. My favourite scene of Clarice and Buffalo Bill is when she sees a moth lands on a spool of cotton which makes her figure out who he is - the expression on her face change. And when she asks to use his phone (no mobile phone back then) he notices the change and he knows, she knows. I find it's a very powerful, nerve wrecking, heart stop beating scene - because yes she has hunted him down and found him
at last but ironically, she has turned to be his prey instead. (1) Buffalo Bill | The Silence of the Lambs [1080p] - YouTube
The silence of the lambs is a film you can't watch only once and without discussing about it. I find I still analyse each character, what they say and what happens in the film even until now. It upholds its position as the best horror/thriller film of all time. Each character seems so real, you might feel they could still be out there somewhere. Buffalo Bill's character is inspired by an American psycho killer, Ed Gein who used part of his victims for making his handicraft! (1) Serial killer - Ed Gein The Real Leatherface Serial Killer Documentary - YouTube
As for Clarice, I think about her often. Unlike other of my heroines who I imagine them to get older, perhaps get married and live their lives like normal people do , Clarice stays as she has been for over thirty years, still single and does what ever she can, making sure that those lambs, one after another stop screaming.
The film is based on the best seller's book by Thomas Harris. The book is also very good. You can listen to it on YouTube (1) THE SILENCE OF THE LAMBS By Thomas Harris - Chapter 2-8 - Narrated by Frank Muller - YouTube
จริงๆ แล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูหนังน่ากลัวอะไรแบบนี้หลายๆ หน แต่หนีงเรื่องไซเรนซ์ออฟเดอะแลมพ์สเป็นข้อยกเว้น เพราะว่าโจดี้เป็นนักแสดงคนโปรด และชอบคลาริซ สตาร์ลิ่งตัวละครที่โจดี้นำแสดง บางทีแทบจะแยกไม่ออกเลยว่าชอบใครมากกว่ากัน โจดี้หรือคลาริซ และคลาริซนั้นจะเป็นใครอื่นไปอีกไม่ได้นอกจากโจดี้ ฟอสเตอร์ ขนาดนั้นเลยเชียวJodie Foster as Clarice Starling |
Anthony Hopkins as Hannibal Lecter |
Scott Glenn as Jack Crawford |
Ted Levine as Buffalo Bill |
All the photographs are from the film, I do not own them. Many thanks to the lovely YouTubers who uploaded clips from the film.
เวลาที่่รู้สึกอ่อนแอ ปวกเปียก น่าเบื่อหน่ายขึ้นมาก็จะงัดเอาดีวีดีหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดู ดูไม่รู้กี่สิบรอบแล้ว แต่ที่ดูนี่ไม่ใช่เพราะติดใจความรุนแรงความน่ากลัวอะไร แต่เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเองว่ายังมีใครคน
ที่มีวันแย่ๆ เหมือนเรา และเขาก็ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยความกล้าหาญและเข้มแข็ง ก็นางเอกของเราคลาริซ สตาร์ลิ่งนี่เอง ทั้งสวย ทั้งเท่ห์ ทั้งเก่ง ทั้งเข้มแข็ง และกล้าหาญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกลัวหรือรู้สึกแย่ๆ เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ทั่วไปไม่เป็นนะ เพียงแต่มีความอดทน เข้มแข็งพอที่จะไม่ยอมแพ้ และไม่ฟูมฟายเท่านั้นเอง หนังเรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ. ๑๙๙๑ นะคะ ไม่น่าเชื่อเลย เพิ่งฉลองครบรอบสามสิบปีไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง หนังได้รับความสำเร็จทั้งเงินและกล่อง โจดี้ ฟอสเตอร์ และ แอนโธนี่ ฮ๊อปคินส์ ทั้งคู่ได้รับรางวัลออสการ์ดารานำแสดงฝ่ายหญิงและฝ่ายชายยอดเยี่ยมกันทั้งคู่ อีกทั้งหนังก็ยังได้รับรางวัลเป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่หนังประเภทนี้ได้รับรางวัลออสการ์ รวมทั้งผู้กำกับยอดเยี่ยมคือ โจนาธาน เด็มมี่ด้วย ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่และมาดูหนัง
เรื่องนี้เป็นครั้งแรกนะคะ อาจจะพบว่ามันให้บรรยากาศเก่าๆ ไปหน่อย เช่นตอนเริ่มต้นของหนัง และสภาพสังคม วัฒนธรรมหลายๆ อย่าง สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือนะคะ ไม่มีอินเตอร์เน็ทด้วย และเจ้าหน้าเอฟบีไอก็ยังเป็นผู้ชายเสียเป็นส่วนมาก นางเอกก็เลยถือว่าเป็นผู้บุกเบิกเปิดทางให้ผู้หญิงทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย โดยที่คลาริซนั้นเป็นคนสวยตามธรรมชาติ และเธอก็รู้ตัวดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำชมจากผู้ชาย จริงๆ แล้วเราจะสวยไม่สวยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นะ เราส่องกระจกดูตัวเอง เราว่าเราโอเค ไม่เห็นต้องให้ใครมาชมเลย อีกอย่างมีความรู้สึกว่าคลาริซเป็นผู้หญิงที่เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมามองว่าเธอสวยแต่รูป อยากให้คนอื่นๆ รับรู้ว่าเธอมีความสามารถมากกว่ารูปร่างหน้าตา เป็นคนรักความก้าวหน้าและอยากทำตัวมีแก่นสารไม่ไร้สาระ เรียกว่าเป็นตัวอย่างของผู้หญิงธรรมดาๆ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีจริงๆ เรื่องย่อๆ คือ คลาริซ สตาร์ลิ่งเป็นนักเรียนปีสุดท้ายก่อนจะจบเป็นเอฟบีไอ เข้าใจว่าคนที่จะมาฝึกเป็นเอฟบีไอได้จะต้องเรียนจบมหาลัย มีปริญญามาก่อน และคลาริซได้ปริญญาทางด้านอาชญวิทยา เอาเป็นว่าคลาริซได้รับมอบหมายจากนักสืบพิเศษ แจ๊ค ครอฟอร์ดให้ไปสัมภาษณ์ฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตชื่อ ฮานนิบาล เล็คเตอร์ อันว่าเล็คเตอร์เป็นฆาตกรโรคจิตที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเพราะเขาเคยเป็นจิตแพทย์และนำเอาอวัยวะบางส่วนของเหยื่อมาเป็นเครื่องปรุงทำอาหาร 😨คลาริซเข้าใจว่าการไปสัมภาษณ์เล็คเตอร์ของเธอครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรถลกหนังของฆาตกรที่ขนานนามกันว่าบัลฟาโร่ บิลล์ที่ทางการยังหามือใครดมไม่ได้ ฆาตกรนั้นฆ่าหญิงสาวไปแล้วหลายศพ และทุกศพก็โดนถลกหนัง
แล้วจึงนำไปโยนทิ้งในแม่น้ำเมื่อคลาริซไปถึงโรงพยาบาลโรคจิตและสถานที่คุมขังของเล็คเตอร์ เธอก็ได้พบกับผู้อำนวยการสถานพยาบาลชื่อเฟรดเดอริค ชิลตั้น ชายวัยกลางคนที่ คือแบบว่าอายุก็มากแล้วและหน้าที่การงานก็ดีเสียเปล่า แต่ยังทำตัวไม่เหมาะสม มาพูดจาปากเปราะกับนางเอกของเรา ซึ่งนางเอกของเราก็ไม่ประทับใจ พูดตอกกลับไปนิ่มๆ ทำให้ชิลตั้นเปลื่ยนทัศนคติเป็นไม่ชอบนางเอกไปเลย แต่มันก็ช่วยไม่ได้นะคะ คือว่าถ้าผู้หญิงต้องมานั่งเอาใจผู้ชายด้วยเรื่องแบบนี้ก็ไม่เข้าเรื่องเลยนะ
แล้วนางเอกก็ได้พบกับเล็คเตอร์ ซึ่งจะว่าไปก็เห็นได้ว่าเล็คเตอร์นั้นก็มีความสนใจคลาริซอยู่ไม่น้อย แล้วก็เหมือนแมวเล่นกับหนูก่อนที่จะตะปบนะคะ เล็คเตอร์ก็ดูเหมือนจะชอบๆ คลาริซดีอยู่ จนกระทั่งคลาริซขอให้เขาทำแบบสอบถาม เล็คเตอร์ก็จัดการพูดเหน็บแนมเสียดสีจี้จุดใจดำให้นางเอกของเราถึงกับอึ้งพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปเลย โชคร้ายกว่านั้นก็คือตอนนางเอกเดินกลับไปตามทางเดิน เพื่อนร่วมที่คุมขังอีกคนของเล็คเตอร์โยนน้ำอสุจิให้หน้านางเอก 😠 ซึ่งก็ทำให้เล็คเตอร์เกิดเห็นใจนางเอกขึ้นมาและเรียกให้นางเอกกลับมา และก็ตัดสินใจช่วยเธอด้วยวิธีการของเขา เพราะจริงๆ แล้วเล็คเตอร์รู้ว่าบัพพาโล่ บิลล์เป็นใคร เพียงแต่ไม่บอกเสียทีเดียว แต่เล่นเกมส์ให้นางเอกงงเล่นสนุกๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเล็คเตอร์และ คลาริซก็เป็นแบบผู้อาวุโสและผู้น้อยนะคะ เห็นได้ชัดๆ ว่าเล็คเตอร์ชอบคลาริซ เขาต่อรองให้ข้อมูลของบัพพาโล่ บิลล์กับเธอเป็นการตอบแทนที่เธอเล่าเรื่องในวัยเด็กของเธอให้เขาฟัง ซึ่งนำไปถึงการค้นหาตัวบัพพาโล่ บิลล์ได้สำเร็จในตอนจบ
ฉากห้องขังรวมไปถึงทางเดินไปห้องขังของเล็คเตอร์นี่น่ากลัวขนพองสยองเกล้าจริงๆ ทำให้นึกไปถึงห้องใต้ดินที่เขาใช้จำคุกและทรมานนักโทษสมัยโบราณในหอคอยแห่งลอนดอนไม่มีผิด บ้านของบัพพาโล่ บิลล์ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน และพ่อเจ้าประคุณบัพพาโล่ บิลล์ก็พิกลซะไม่มีเลย ประหลาดมากๆ แต่หมาของบัพพาโล่ บิลล์
น่ารักน่าเอ็นดูมากเลยอ่ะ
หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังที่ดูครั้งเดียวแล้วจะพอ เพราะว่ามันมีรายละเอียดและเงื่อนงำให้ค้นหาเยอะมาก อีกทั้งเป็นหนังที่ดูแล้วก็อดที่จะต้องเอามาวิภาควิจารณ์ไม่ได้ เช่นว่าสาเหตุที่คลาริซอยากเป็นเอฟบีไอก็เพื่อที่ว่าเธอจะได้ช่วยเหลือผู้อื่น เนื่องจากในอดีตนั้นเธอพยายามช่วยลูกแกะในบ้านฟาร์มที่เธอเคยอาศัยอยู่ไม่ให้มันถูกฆ่า แต่ช่วยได้ไม่สำเร็จ และเธอก็ฝันร้ายได้ยินเสียงลูกแกะร้องมาตลอด บัพพาโล่ บิลล์ฆ่าผู้หญิงเพื่อจะได้ถลกหนังมาตัดชุดเพื่อให้ตัวเองดูเป็นผู้หญิง และการใช้ดักแด้มาเป็นตัวอย่างของการแปลงร่างของบัฟฟาโล่บิลล์ คือจากผู้ชายเป็นผู้หญิง จากดักแด้เป็นผีเสื้อ
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีชื่อเดียวกับหนังเชียนโดนนักเขียนชาวอเมริกันชื่อโธมัส แฮริส เขาเขียนหนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับฮานนิบาล เล็คเตอร์ และเอฟบีไอชื่อวิลล์ แกรมห์ เรื่องเรด ดราก้อน สำหรับใครสนใจหนังสือ เสียงเงัยบของลูกแกะ นั้นอยากจะฟังออดิโอ บุ๊คเป็นภาษาอังกฤษก็หาฟังกันได้ทางยูทูป
นะคะ THE SILENCE OF THE LAMBS By Thomas Harris - Chapter 2-8 - Narrated by Frank Muller - YouTube อ่านดีเหมือนกันคะ
ฉากบางฉากเช่น ฉากระหว่างคลาริซและชิลตันก็ดูได้จากยูทูป The Silence of the Lambs (1991) - Doctor Chilton's Introduction - YouTube
ตัวอยากฉากที่เล็คเตอร์พูดดูถูกจี้ใจดำคลาริซและทำให้เธอทั้งอึ้งทั้งเจ็บใจ Anthony Hopkins: The Silence of the Lambs ("Rube") Monologue - YouTube
ฉากเมื่อคลาริซพบบัฟฟาโล่ บิลล์ The Silence of the Lambs (10/12) Movie CLIP - Buffalo Bill (1991) HD - YouTube
ตัวละครบัฟฟาโล่ บิลล์นั้นได้แรงบันดาลใจจากฆาตกรโรคจิตชาวอเมริกันชื่อเอ็ด กีน ซึ่งฆ่าผู้หญิงแล้วนำอวัยวะมาทำเป็นงานฝีมือและของตกแต่งบ้าน
หาดูเรื่องของเอ็ด กีนได้นะคะ Serial killer - Ed Gein The Real Leatherface Serial Killer Documentary - YouTube ถ้าอยู่บ้านคนเดียวดึกๆ ก็อย่าเพิ่งดูนะคะ 😁น่ากลัวอยู่ค่ะ
Comments
Post a Comment